Lotus Flower

เติบโตไปด้วยกัน

หลังบ้านมีต้นขนุนเก่าแก่ คุณยายพรสุขเล่าว่า คุณตากำจิตท่านไปหามาปลูกไว้ นาน นานแล้วมาก นานจนคนปลูกได้ย้ายภูมิลำเนาไปอยู่บนฟ้าแล้ว ต้นขนุนที่ว่า ก็ยังคงดูสูงเท่าเดิม ไม่เคยเห็นเติบโต เปลี่ยนแปลงไปกว่าเดิม จนอดคิดไม่ได้ว่า ชีวิตหนึ่ง ๆ ก็คงมีจุดจำกัดการเติบโตของสิ่งนั้น ๆ 

คนเราก็คงเช่นกัน

แต่แล้วก่อนนอน ผมก็ถามคำถามนี้กับตัวเอง ว่าตัวผมครั้งสิบขวบ อายุยี่สิบ และ เมื่อสิบปีที่ผ่าน ผมเคยหยุดการเปลี่ยนแปลงหรือเติบโตหรือเปล่า ผมก็เริ่มมองเห็นด้วยมุมที่แตกต่างไปอีกครั้ง ในความเป็นจริงแล้ว วันที่เราจะหยุดการเปลี่ยนแปลงและเติบโตของเรา ก็คือวันที่เราตายจากไปแล้วต่างหาก

หลายหน หลายครั้ง ที่ผมคิดว่า ในช่วงเวลาหนึ่งนั้น เราช่างมีเหตุผล คิดได้ก้าวหน้า และเติบโตเพียงพอแล้วกับเหตุ เวลา สถานการณ์เยี่ยงนั้น แต่เมื่อเราผ่านเวลานั้นแล้วได้ทบทวนกลับมา เรื่องใหญ่ ๆ ตรงหน้า เรื่องราวที่เราคิดว่า ฉันช่างเก่งเสียเต็มประดา มันเป็นเรื่องที่เล็กน้อยยิ่งนัก

มันทำให้ผมคิดถึงวันเริ่มแรกของการข้าม Annapurna Circuit ยอดเขาสูงแหลมด้านหน้า ดูยิ่งใหญ่นัก ผมได้แต่คิดในใจว่า เราคงไม่ได้ไปถึงจุดนั้นหรอกนะ แต่ในเย็นของวันนั้น จุดที่เราพัก เลยยอดนั้นไปอีก และแล้วทุกวันที่เดินไปข้างหน้า สิ่งที่เราเห็นเป็นปัญหาตั้งเด่นตรงหน้า สูง สูงจนไม่น่าเชื่อว่าเราจะไปถึง เราได้ก้าวข้ามมันไปในทุกวี่วัน

แค่ก้าวเดิน เราก็จะข้ามผ่านพ้นไป

เช่นเดียวกับชีวิต ในวันนี้ เวลานี้ ช่วงชีวิตที่ผมคิดว่าผมเติบโตมามากกว่าที่เคยเป็น ช่วงเวลาที่เพียงพอแล้ว อิ่มตัวและเหมาะสมดีแล้ว ถ้าผ่านไปข้างหน้าอีกสิบปี ผมเชื่อมั่นว่า เมื่อได้ย้อนกลับมา ผมก็จะเห็นเด็กน้อยที่ยังล้มลุกคลุกคลานอยู่เช่นเดิม

เช่นเดียวกับต้นขนุนที่อยู่เห็นเป็นเช่นเดิมในทุก ทุกปี ต้นขนุนที่ไม่ดูเติบโต ยิ่งใหญ่ไปกว่านี้ในสายตาที่ผมมอง ความเป็นจริงแล้ว ทุกวันมียอดอ่อนแตกแทงออกมาเขียวขจี มีใบเก่าก่อนแกผลัดทิ้งไปร่วงหล่น

ต้นขนุนและตัวผม เราก็ยังเติบโตไปได้ด้วยกัน